[หน้าแรก] [ปฏิบัติการ]
 
           บท5 การถ่ายทอดพันธุกรรมที่ไม่เป็นไปตามกฏของเมนเดล

           การถ่ายทอดพันธุกรรมโดยศึกษาจากการแสดงออกของยีน ซึ่งไม่ได้เป็นแบบยีนเด่นข่มยีนด้อยอย่างสมบรูณ์ ทำให้ยีนด้อยมีการแสดงออกมาบ้างหากสิ่งมีชีวิตนั้นมียีโนไทป์เป็น heterozygote (Aa) นอกจากนั้นอาจเกิดจากยีนที่ควบคุมการแสดงออกของลักษณะหนึ่งมียีนควบคุมมากกว่า 1 คู่ ทำให้ลูกที่เกิดขึ้นในชั่ว F2 มีอัตราส่วนที่แตกต่างจากอัตราส่วนที่เคยศึกษามา   กล่าวคือ   ลักษณะเด่น  : ด้อย = 3: 1 (monohybrid cross)       หรือ 9 : : 3 : 3 : 1 (dihybrid cross) การที่ลูกชั่ว F2 มีอัตราส่วนที่แตกต่างไปจากเดิม  อันมีสาเหตุจากการแสดงออกของยีนแบบต่างๆ เช่น การข่มไม่สมบูรณ์ (Incomplete dominance) การแสดงออกของยีนเท่าเทียมกัน (Codominance)  มัลติเพิลอัลลีล (Multiple alleles) ปฏิสัมพันธ์ระหว่างยีน (มียีน 2 คู่ ควบคุมลักษณะเดียวกันหรือ Gene interaction เช่น การเกิดลักษณะใหม่ของหงอนไก่ตัวผู้ เนื่องจากมียีน  R และ ยีน P ที่ไม่เคยพบกันมาเข้าคู่กัน เช่น ลักษณะหงอนแบบ Walnut ( R_P_ ) ในไก่ เรียกลักษะใหม่นี้ว่า Novel phenotype และ หรือเป็นผลมาจากยีนมีการข่มข้ามคู่ที่เรียกว่า Epistatis นอกจากนั้นอาจเนื่องจากการถ่ายทอดพันธุกรรมแบบทบรวม ซึ่งเกิดจากยีนที่ควบคุมลักษณะใดลักษณะหนึ่งตั้งแต่ 2 คู่ เรียกว่า Polygenic Inheritance  และ ยีนมรณะ (Lethal gene)  รวมทั้งการถ่ายทอดพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับเพศและโครโมโซมเพศ (Inheritance relate to sex and sex chromosome) ได้แก่ Sex-linked genes, Y-inheritance, Sex-influenced genes และ Sex limited genes)

ตัวอย่าง การแสดงออกของลักษณะเนื่องจากการทำงานของยีน 2 คู่ ที่ควบคุมการแสดงออกของลักษณะเพียง 1 ลักษณะมีการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยีน (gene interaction) เช่นการข่มข้ามคู่ (Epistatis) เป็นการร่วมกันทำงานของยีน 2 คู่ ยีนในนตำแหน่งหนึ่งมีอิทธิพลต่อการแสดงออกของยีนในอีกตำแหน่งอื่น ยีนที่ถูกยับยั้งไม่ให้แสดงออกเรียกว่า hypostatic gene ส่วนยีนที่ไปยับยั้งเรียกว่า epistatic gene ปฏิกิริยาระหว่างยีนที่เกิดขึ้นมีการแสดงออกได้หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับการควบคุมการทำงานของยีนแต่ละคู่ว่าเป็นอย่างไร ทำให้ได้อัตราส่วนของฟีโนไทป์ของลูก F2 แตกต่างกันไป ดังแสดงในตารางที่ 1

ตารางที่ 1 สรุปอัตราส่วนของฟีโนไทป์ที่เกิดขึ้นจากการผสมพันธุ์เพื่อดูลักษณะที่แตกต่างกัน
                   2 ลักษณะของลูกในชั่ว F2  จากการคู่ผสมระหว่าง AABB x aabb

               *  เลข 13 คิดรวมจากค่า 12 ในช่องเดิมและเพิ่มอีก 1 จากช่องสุดท้าย