ป่า-ทรัพยากรล้ำค่า

   ในอดีตสมัยที่ประชากรของโลกยังน้อย พื้นที่อันกว้างใหญ่มีสภาพเป็นป่าให้มนุษย์ได้อาศัยใช้ประโยชน์นานับการสำหรับการดำรงชีพ เราได้อาศัยน้ำสะอาดที่ไหลรินจากต้นน้ำลำธาร ได้เข้าไปตัดไม้มาทำเพิงพักอาศัย ทำเครื่องเรือน เครื่องมือสำหรับใช้สอย ต่อเรือเพื่อความสะดวกในการเดินทางตามลำน้ำ หาสัตว์ป่ามาเป็นอาหาร เก็บพืชผัก ผลไม้ และเห็ดป่าที่เกิดตามฤดูกาล เวลาป่วยไข้ก็ได้อาศัยพืชสมุนไพรจากต้นไม้ใหญ่น้อยมารักษาแบบลองผิดลองถูกจนพัฒนาเป็นยารักษาโรคแผนปัจจุบัน

   ทุกวันนี้เราทราบว่าป่าเป็นยิ่งกว่าต้นน้ำลำธาร เพราะถ้าคลอโรพลาสต์เปรียบได้เป็นโรงงานขนาดจิ๋วดังได้กล่าวแล้ว ต้นไม้ย่อมเป็นโรงงานขนาดใหญ่และป่าเป็นโรงงานขนาดมหึมาและคลังมหาสมบัติของมนุษยชาติ

   แม้กระนั้น พื้นที่ป่าที่สมควรมีประมาณ 50 % ของพื้นที่ในแต่ละประเทศกลับลดลงไปอย่างรวดเร็ว จากความต้องการพื้นที่ทำกินเพิ่มขึ้นตามจำนวนพลเมือง นอกจากนั้นป่าส่วนใหญ่ยังมีสินทรัพย์ประเภทแร่ธาตุที่มนุษย์ต้องการซ่อนอยู่ จึงมีการทำเหมืองทำลายป่าเพิ่มขึ้นไปอีก ซ้ำยังทำให้คุณภาพน้ำปนเปื้อนตั้งแต่ส่วนที่เป็นต้นน้ำลงมา

   ป่าในประเทศไทยเป็นป่าในเขตร้อน เป็นบริเวณที่มีความหลากลายทางชีวภาพสูงสุด โดยเฉพาะพรรณไม้นา ๆ ชนิดนอกเหนือจากการใช้ประโยชน์ดังที่กล่าวมาแล้ว เรายังได้ไม้ป่าแปลกๆมาปรับปรุงและขยายพันธุ์ปลูกเป็นไม้ประดับ ใบไม้ที่หล่นทับถมในแต่ละปีจะผุพังลงจนกลายเป็นปุ๋ยธรรมชาติ น่าเสียดายที่พื้นที่ป่าของเราถูกทำลายไปเหลือไม่ถึงครึ่งที่ควรจะมี